put other-th + ALL FAQ-th at Select the FAQ Categories above
put SMM-th + ALL FAQ-th at Select the FAQ Categories above
ใส่ faq categories เป็น allFAQ-th และ SEM-th
SEO ( Search Engine Optimization ) คือกระบวนการเพิ่มประสิทธิภาพให้แก่ตัวเว็บไซต์ ในการแสดงผลบน SERPs ( Search Engine Results Pages ) หรือหน้าแรกของ Google ในรูปแบบไม่เสียค่าโฆษณา โดยมีจุดประสงค์เพื่อเพิ่มจำนวนการเข้าเว็บไซต์แบบธรรมชาติ ( Organic Traffic ) ผ่านระบบการค้นหาของ search engine ต่างๆอาทิเช่น Google, Yahoo, Bing เป็นต้น
SEO คือกลยุทธ์การตลาดแบบ Inbound Marketing ที่มีศักยภาพและสามารถสร้างประโยชน์ต่อเว็บของคุณได้อย่างมาก ตัวอย่างเช่น
• เพิ่มการมองเห็นแบรนด์ และเพิ่มโอกาสให้ผู้คนรู้จักแบรนด์มากยิ่งขึ้น
• ลดค่าใช้จ่ายในระยะยาวได้อย่างชัดเจน
• เพิ่มการสอบถาม / โอกาสในการขาย / การขาย / การมีส่วนร่วมจากกลุ่มเป้าหมายของคุณ
• เพิ่มประสบการณ์การใช้งานเว็บไซต์ (UX) ของคุณให้ดียิ่งขึ้น
• เพิ่มอัตราการขาย / ปิดการขาย ในเว็บไซต์ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ
• ปรับปรุงการจัดการต้นทุนในการทำการตลาดออนไลน์ ให้มีประสิทธิภาพสูงสุด
• เป็นการตลาดที่มีประสิทธิภาพ และได้ผลระยะยาว
• เพิ่มความน่าเชื่อถือของแบรนด์ / สินค้า
• เพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานเว็บไซต์ผ่านโทรศัพท์มือถือ
• ได้เปรียบเหนือคู่แข่งของคุณ
การจะตอบคำถามนี้ อาจแตกต่างกันไปในแต่ละธุรกิจ และขึ้นอยู่หลากหลายปัจจัย โดยเฉพาะอย่างยิ่งรูปแบบของสินค้าและบริการของคุณ โดย ปัจจัยที่สำคัญประกอบด้วย รายละเอียดดังต่อไปนี้
• เว็บไซต์ของคุณ / ธุรกิจของคุณเกี่ยวกับอะไร และ คู่แข่งของคุณคือใคร อยู่ในตลาดรูปแบบไหน
• ประเภทของสินค้า หรือ บริการที่คุณต้องการจะโปรโมต
• จุดประสงค์ของแคมเปญ คืออะไร
• คุณต้องการกลยุทธ์ในระยะสั้นหรือกลยุทธ์ระยะยาว
• งบประมาณในการทำการตลาดออนไลน์ของคุณ
การจะตอบคำถามว่า การตลาดออนไลน์รูปแบบไหนเหมาะสำหรับธุรกิจของคุณที่สุด จำเป็นต้องอาศัยความเข้าใจจากหลากหลายปัจจัย เพื่อให้เกิดความสอดคล้องต่อการดำเนินธุรกิจและประเภทการเข้าถึงของแต่ละกลุ่มลูกค้า ซึ่งหากต้องการขยายศักยาภาพอย่างเต็มที่แนะนำว่าการทำทุกช่องทางจะช่วยให้เข้าถึงลูกค้าได้อย่างครอบคลุมและหลากหลายมากที่สุด
วิธีการต่างๆ ที่เพิ่มอันดับให้แก่เว็บไซต์ของคุณใน Search Engine โดยกระทำภายในตัวเว็บไซต์ เรียกว่า On-page หรือ Onsite seo ครอบคลุมตั้งแต่ การสร้างสรรเนื้อหาที่มีประโยชน์ การปรับแต่งโครงสร้างเว็บไซต์ ลิงค์ภายใน การปรับแต่งรูป การปรับแต่งความเร็ว การตั้งค่า Meta Tag ต่างๆ จนถึงการกำหนด Schema Markup และปัจจัยต่างๆที่จำเป็นต้องลงบนเว็บไซต์ สำหรับในส่วนของ Link จากภายนอกไม่ว่าจะรูปแบบไหนก็ตามจะไม่จัดเป็น On-page SEO
Off-page SEO คือการกระทำต่างๆ ที่พัฒนาอันดับของเว็บไซต์ให้ดีขึ้น บน Search Engine โดยการปรับแต่งรูปแบบนี้ที่คนนิยมกระทำมักเรียกอีกชื่อหนึ่งว่า Link building หรือการสร้างลิงค์ ไม่วาจะเป็นในรูปแบบ Hyper-link การแทรกลิงค์ไว้กับรูป หรือการแทรกลิงค์ไว้ในองค์ประกอบต่างๆที่สามารถทำได้ ตัวอย่างเช่นการกล่าวอ้างถึงแบรนด์ ในตัวบทความ แล้วทำการลิงค์ชื่อแบรนด์ไปยังเว็บไซต์ของแบรนด์นั้นๆ
Robot.txt คือไฟล์ สกุล text ที่ถูกอัพโหลดลงใน TLD (Top-level directory ) ของเว็บไซต์ เพื่อใช้ในการกำหนดกฏต่างๆในแก่ Crawler หรือตัวเก็บข้อมูลของ Search Engine ให้ทราบว่า หน้าไหนที่สามารถเก็บข้อมูลได้ และหน้าไหนที่ไม่สามารถเก็บข้อมูลได้
น่าเสียดายที่ไม่มีคำตอบที่ชัดเจนสำหรับคำถามนี้ เนื่องจากการทำ SEO นั้นขึ้นอยู่กับตัวแปรหลากหลายตัว ถึงแม้ว่า SEO จะเหมือนกับศาสตร์ที่เกี่ยวกับข้อมูลและตัวเลขก็ตาม แต่ SEO นั้นไม่ใช่วิทยาศาสตร์ที่แน่นอน แบบ 100 เปอร์เซ็นต์ ทั้งนี้หากคุณทำงานกับเอเจนซี่ SEO ที่มีชื่อเสียงและเป็นมืออาชีพคุณควรเริ่มเห็นการพัฒนาของผลลัพธ์จากการทำงานของพวกเขาภายใน 2-3 เดือนนับจากเริ่มแคมเปญ
อย่างไรก็ตาม SEO เป็นกระบวนการที่ยังคงมีการพัฒนาและการอัพเดตอย่างต่อเนื่องและหลากหลายช่วงเวลาในแต่ละรอบปี อันเนื่องมาจากการอัพเดตตัวประมวลผลของ Search Engine หรือที่เรียกว่า Google Algorithm update จึงทำให้กลยุทธ์การดำเนินงาน SEO ต้องเน้นการปรับตัวให้เหมาะสมและตอบโจทย์ต่อรูปแบบการพัฒนาด้านต่างๆ เพื่อช่วยให้อันดับขึ้นเป็นที่หนึ่งในคีย์เวิร์ดที่ตัวเองต้องการ
***ธุรกิจจำนวนมากลงทุนใน SEO อย่างต่อเนื่องเป็นเวลาหลายปี เนื่องจากผลลัพธ์ที่พวกเขาได้รับจากการทำ SEO นั้น มีประสิทธิภาพและเป็นการประหยัดค่าใช้จ่ายด้านการตลาดในระยะยาว และที่สำคัญเกิดการซื้อขาย เกิดได้อย่างชัดเจนมากกว่า เพราะลูกค้าจะค้นหาสิ่งที่เขาสนใจอยู่แล้ว***